พื้นที่
ฝรั่งเศสมีพื้นที่ 550,000 ตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก (ประมาณเกือบหนึ่งในห้าของพื้นที่ของสหภาพยุโรป) อีกทั้งยังมีพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง (เขตเศรษฐกิจจำเพาะมีพื้นที่ทั้งสิ้น 11 ล้านตารางกิโลเมตร)
ภูมิประเทศ
พื้นที่ประมาณสองในสามของประเทศฝรั่งเศสเป็นที่ราบ เทือกเขาที่สำคัญได้แก่ เทือกเขาแอล์ปซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ ยอดเขามงต์บลองก์ (Mont-Blanc) สูง 4,807 เมตร เทือกเขาปิเรเนส์ เทือกเขาจูรา เทือกเขาอาร์แดนส์ เทือกเขามาสซิฟ ซองทราลและเทือกเขาโวจช์ ประเทศฝรั่งเศสมีชายฝั่งทะเลอยู่ถึง 4 ด้าน คิดเป็นความยาวรวมทั้งสิ้น 5,500 กิโลเมตร (ทะเลเหนือ ช่องแคบอังกฤษ มหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน)
ภูมิอากาศ
มี 3 แบบคือ
แบบชายฝั่งทะเลตะวันตก (บริเวณตะวันตกของประเทศ)
แบบเมดิเตอร์เรเนียน (ทางตอนใต้ของประเทศ)
แบบภาคพื้นทวีป (ทางตอนกลางและภาคตะวันออกของประเทศ)
สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
พื้นที่เกษตรกรรมและทำป่าไม้มีประมาณ 48 ล้านเฮกตาร์ คิดเป็นร้อยละ 82 ของพื้นที่โดยรวมทั้งประเทศ (เฉพาะฝรั่งเศสส่วนภาคพื้นทวีป)
พื้นที่ป่ามีประมาณร้อยละ 30 และนับว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรปรองจากสวีเดนและฟินแลนด์ ตั้งแต่ปี 1945 พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และถ้าพูดถึงในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา นับว่าเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว
ฝรั่งเศสมีความแตกต่างไปจากประเทศอื่นๆในยุโรปเพราะมีพันธุ์ไม้มากถึง 136 ชนิด ในส่วนของสัตว์ใหญ่ก็เพิ่มจำนวนขึ้น ภายในช่วงระยะเวลา 20 ปี จำนวนของสัตว์ประเภทกวางเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่า
ประเทศฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับมรดกทางธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ จึงได้มีการจัดตั้ง
อุทยานแห่งชาติ 7 แห่ง
ป่าสงวน 156 แห่ง
เขตรักษาพันธุ์พืชและสัตว์ป่า 516 แห่ง
รวมทั้งประกาศให้พื้นที่อีก 429 แห่งเป็นเขตอนุรักษ์อยู่ภายใต้การดูแลของสถาบันอนุรักษ์ชายฝั่งทะเล
นอกจากนี้ยังมีอุทยานธรรมชาติตามภูมิภาคต่างๆ อีกกว่า 37 แห่งซึ่งกินพื้นที่กว่าร้อยละ 7 ของประเทศ
งบประมาณจำนวน 32 พันล้านยูโรได้รับการจัดสรรเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อประชากรจะเท่ากับ 516 ยูโร ทั้งนี้ 3 ส่วน 4 ของเงินข้างต้นจะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของการบำบัดน้ำเสียและการจัดการของเสียต่างๆ
ในระดับนานาชาติ ฝรั่งเศสเป็นภาคีของสนธิสัญญาและอนุสัญญาทางด้านสิ่งแวดล้อมหลายฉบับ รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย
เพลงชาติและคำขวัญ
ลา มาร์เซยแยส (La Marseillaise) เป็นเพลงชาติของฝรั่งเศสมาตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 1795 แต่เดิมเพลงนี้มีชื่อว่า Chant de guerre pour l’armée du Rhin ซึ่งประพันธ์ขึ้นที่เมืองสตราสบูรก์เมื่อปี 1792 คำขวัญของสาธารณรัฐฝรั่งเศสคือเสรีภาพ เสมอภาคและภราดรภาพ
ธงชาติของฝรั่งเศส
แต่เดิมสีน้ำเงินแดงเป็นสัญลักษณ์ของกองกำลังรักษากรุงปารีส ต่อมาในปี 1789 นายพลลาฟาแยตต์เพิ่มสีขาวอันเป็นสัญลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ นับแต่นั้นมาสีน้ำเงินขาวแดงจึงเป็นสีของธงชาติและกลายเป็นสัญลักษณ์ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส
วันชาติ
14 กรกฎาคม
ประชากร
ประชากรจำนวน 62.2 ล้านคน (ปี 2005)
ความหนาแน่นของประชากร 96 คนต่อตารางกิโลเมตร
เมืองมีประชากรมากกว่า 100,000 คนมีถึง 57 เมือง
เมืองที่มีประชากรมากที่สุดห้าอันดับแรกคือ
การแบ่งส่วนการปกครอง
สาธารณรัฐฝรั่งเศสประกอบด้วย
ส่วนที่อยู่บนภาคพื้นทวีป (แบ่งเป็น 22 มณฑลและ 96 จังหวัด)
จังหวัดโพ้นทะเล (DOM) 4 จังหวัดได้แก่ กัวเดอลูป มาร์ตินิก เฟรนช์เกียนาและลา เรอูนียง
ดินแดนโพ้นทะเล (TOM) 5 แห่งได้แก่ เฟรนช์ โปลิเนเซีย, วาลลิสและฟูตูนา, มายอตต์, แซงต์-ปิแอร์-เอต์-มิเกอล็ง, เฟรนช์ เซาเทิร์นและแอนตาร์กติก แทร์ริทอร์รีส์
ดินแดนที่มีสถานภาพพิเศษอีก 1 แห่งคือ นิวแคลิโดเนีย
ประเทศฝรั่งเศส แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
เทศบาล เป็นองค์การปกครองส่วนที่เล็กที่สุด จำนวนประมาณ 37,000 communes
จังหวัด เป็นองค์การปกครองขนาดกลาง ในฝรั่งเศสมีจำนวนประมาณ 100 département ซึ่งรวมถึงดินแดนโพ้นทะเล 4 แห่ง คือ Martinique, Guadeloupe, Réunion และ French Guyana
มณฑล เป็นองค์การปกครองที่ใหญ่ที่สุด ประเทศฝรั่งเศสมีทั้งสิ้น 26 แคว้น ประกอบด้วย (1) ภาคพื้นทวีปยุโรป (Metropolitan France) 22 แคว้น (regions) ได้แก่
1. อาลซัส (Alsace)
2. อากีแตน (Aquitaine)
3. โอแวร์ญ (Auvergne)
4. บัส-นอร์ม็องดี (Basse-Normandie)
5. บูร์กอญ (Bourgogne)
6. เบรอตาญ (Bretagne)
7. ซ็องทร์ (Centre)
8. ช็องปาญาร์แดน (Champagne-Ardenne)
9. กอร์ส (คอร์ซิกา) (Corse)
10. ฟร็องช์-กงเต (Franche-Comté)
11. โอต-นอร์ม็องดี (Haute-Normandie)
12. อีล-เดอ-ฟร็องส์ (l‘le-de-France)
13. ล็องก์ด็อก-รูซียง (Languedoc-Roussillon)
14. ลีมูแซ็ง (Limousin)
15. ลอแรน (Lorraine)
16. มีดี-ปีเรเน (Midi-Pyrénées)
17. นอร์-ปา-เดอ-กาแล (Nord-Pas-de-Calais)
18. เปอีเดอลาลัวร์ (Pays de la Loire)
19. ปีการ์ดี (Picardie)
20. ปัวตู-ชาร็องต์ (Poitou-Charentes)
21. พรอว็องซาลป์โกตดาซูร์ (Provence-Alpes-Cóte d’Azur)
22. โรนาลป์ (Rhóne-Alpes)
ส่วนที่อยู่บนภาคพื้นทวีป
ภาคเหนือ
|
มณฑล/แคว้น | เมืองหลวง | ข้อมูลโดยทั่วไป |
Nord-Pas de Calais (นอร์ด-ปาส์-เดอ-กาเลส์)
| Lille (ลีลล์) |
เมืองหลวงของแคว้นนี้ได้ถูกยกให้เป็นเมืองวัฒธรรมของยุโรปในปี 2004 และ และยังเป็นเป็นเมืองแรกในฝรั่งเศสที่มีรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตเบียร์คุณภาพเนื่องจากภูมิประเทศเหมาะสมกับการปลูกข้าวสาลีและข้าวบาร์เล่ย์
อาหารที่ขึ้นชื่อของแคว้นนอร์ด-ปาส์-เดอ-กาเลส์คือ หอยแมลงภู่อบกับมันฝรั่งทอด และซุปปลากับไก่แกล้มเบียร์รสเลิศ
สถานที่สำคัญและน่าสนใจในปา-เดอ-กาเลส์ได้แก่ มหาวิหารนอเทรอดามแห่งบูลอญ, มหาวิหารนอเทรอดามแห่งออแมร์ และสุสานโนเทรอดามแห่งลอแร็ต
แคว้นนี้มี 2 จังหวัด ดังนี้ นอร์ด และ ปาส์-เดอ-กาเลส์
|
Picardie (ปีการ์ดี) | Amiens(อาเมียง) |
เป็นแคว้นที่มีขุมทรัพทย์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติเป็นสำคัญ มีแหล่งธรรมชาติที่น่าเที่ยวอีกนับไม่ถ้วน ทั้งป่าไม้และชายทะเล ไปจนถึงผาหินชอล์กที่งามสะดุดตา ที่สำคัญ แคว้นปีการ์ดีเป็นแหล่งกำเนิดของศิลปะโกธิค เห็นได้จากวิหารต่าง ๆในแคว้นที่มีชื่อเสียงคือ มหาวิหารโนเทรอดามแห่งอาเมียงส์ (Amiens Cathedral) และโบสถ์ซึ่งสร้างแบบป้อมปราการที่ เมืองติเยราช (Thiérache)
นอกจากนี้ยังมีอาหารตำรับเก่าแก่ที่ถูกสืบทอดกันมาให้ชิมอีกหลายชนิด ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ถือว่าเป็นแคว้นแห่งศิลปะโกธิคอย่างแท้จริง
แคว้นนี้มี 3 จังหวัด ดังนี้ ไอสน์, อวส และซอมม์
|
ภาคตะวันตก
|
มณฑล/แคว้น | เมืองหลวง | ข้อมูลโดยทั่วไป |
La Basse-Normandie(บาสนอร์มองดี)
| Caen (ก็อง) |
เป็นแคว้นที่มีชายฝั่งทะเลตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติค ชายฝั่งทางเหนืองติดกับอ่าวม๊องช์ (Manche) มีความสวยงามทั้งในด้านศิลปะและประวัติศาสตร์ที่สำคัญ รวมทั้งเรื่องอาหารการกินโดยเฉพาะมีชื่อเสียงด้านเนยสดและเนยแข็ง ครีมสดข้นมัน ไส้กรอกเครื่องในของเมืองก็อง (Caen) รวมทั้งเป็นแหล่งพัฒนาอุตสาหกรรมม้าที่สำคัญ เช่น การเพาะพันธุ์ม้า พัฒนาพันธุ์ม้า การจัดการแข่งขันม้า การสอนขี่ม้า และการฝึกม้า
แคว้นนี้มี 3 จังหวัด ดังนี้ กัลวาโดส์, มองช์, ออร์น
|
La Haute-Normandie (โอตนอร์มองดี)
| Rouen (รูออง) |
เป็นแคว้นที่มีทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ซึ่งเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ สัตว์ที่เลี้ยงก็จะเป็นพวกม้าและวัว ซึ่งม้าและวัวของที่นี่ถือว่าเป็นม้าและวัวที่ดีที่สุดของประเทศฝรั่งเศส
เป็นแหล่งผลิตเนยแข็งที่มีชื่อเสียง เช่น กามองแบร์ ปงเลเวต และเป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลที่มีคุณภาพรสชาติอร่อยของฝรั่งเศส จึงมีน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือ น้ำแอปเปิ้ล
แคว้นนี้ยังเป็นเมืองอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อนั่นคือ Le Mont-Saint-Michel ซึ่งเป็นโบสถ์โบราณเก่าแก่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมันสร้างอยู่บนโขดหินใกล้ทะเล
แคว้นนี้มี 2 จังหวัด ดังนี้ เออร์, แซน-มารีตีม
|
Bretagne (เบรอตาญ)
| Rennes (แรน) |
เป็นแคว้นที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นไปในทางมหาสมุทรแอตแลนติค และเป็นแคว้นเดียวในฝรั่งเศษที่ไม่มีการปลูกองุ่นเนื่องจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม แต่มีการประมงเป็นหลักเพราะติดทะเล มีเมืองท่าที่สำคัญชื่อว่า Brest
ผู้คนที่มาเยี่ยมแคว้นนี้จะต้องไม่พลาดที่จะเข้าร่วมงานพิธีสำคัญ พิธี Pardon (ซึ่งมีพิธีมิสซาที่ยิ่งใหญ่ และมีผู้คนแต่งกายชุดประจำแคว้นเดินแห่แหนไปตามถนน) หรือเทศกาลเซลติค ย้อนอดีตอันยาวนานของชาวเบรอตาญ เบรอตาญเมีชื่อเสียงด้านอาหารทะเล น้ำไซเดอร์ ไวน์แอ๊ปเปิ้ลหอมหวาน และแครปต้นตำรับ แคว้นนี้มี 4 จังหวัด ดังนี้
โกตส์-ดามอร์, อีลล์-เอต์-วีแลน, มอร์บีออง และฟีนีสแตร์
|
Pays de Loire (เปย์เดอลาลัวร์)
| Nantes (น็องต์) |
แคว้น Pays de Loire มีปราสาทต่าง ๆ สวยงามมากมาย เป็นเมืองที่มีผลผลิตทางเกษตรที่สำคัญของฝรั่งเศส นั่นคือ ข้าวสาลี, ข้าวโพด, ไร่องุ่น และเหล้าองุ่นขาว ที่สำคัญเป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงด้านไร่องุ่นคุณภาพดี เนื่องด้วยมีอากาศที่อบอุ่นและได้ความชุ่มชื้นจากมหาสมุทร และยังเป็นแหล่งของอาหารชั้นเลิศอีกหลายชนิด เช่น Rillettes หมูบดปรุงรสพิเศษ ไก่เนื้อแน่น ปลาน้ำจืดเนื้อนุ่ม นอกจากนี้ยังเป็นแดนสวรรค์ของการล่องเรือ เพราะมีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย เช่น แม่น้ำลัวร์ แมน ซาร์ธ มาแยน
ในปี ค.ศ. 2004 นิตยสารไทม์บรรยายน็องต์ว่าเป็น “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ในยุโรป
แคว้นนี้มี 5 จังหวัด ดังนี้ ลัวร์-อาตลองตีก, มาแยนน์, แมน-เอ-ลัวร์, ซาร์ตและว็องเด
|
Centre (ซ็องทร์)
| Orléans (ออร์เลอ็อง) |
เป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวปราสาทที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำลัวร์ เช่น Chambord, Blois, Azay-le-Rideau, Chenonceau นอกจากนี้ยังมีวิหารแห่งเมือง Bourges และ Chartres ซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่าเป็นอุทยานของฝรั่งเศสเพราะ มีอุทยานแห่งชาติถึง 3 แห่ง (Brenne, Perche และ Loire-Anjou-Touraine)
แคว้นนี้มี 6 จังหวัด ดังนี้ แชร์, เออร์-เอ-ลัวร์, แอ็งดร์, แอ็งดร์-เอต์-ลัวร์, ลัวร์-เอต์-แชร์ และ ลัวเรต์
|
Poitou-Charentes (ปัวตู-ชารองต์)
| Poitiers(ปัวตีเย) |
มีชายทะเลแสนวิเศษและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญ ที่นี่เป็นแหล่งผลิตเมรัยกลั่นรสละมุนหอมกรุ่นชื่อคอนยัค ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ยังเป็นแคว้นที่มีวิถีชีวิตขนบธรรมเนียมแบบดั้งเดิม และเป็นที่เก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมแบบโรมันที่เก่าแก่และทรงคุณค่าในอารามโบราณ เช่นที่เมือง Alnay, Saint-Savin ตลอดจนถึงเมืองสำคัญอย่าง Poitiers
นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งอนาคตดังปรากฎเป็นรูปธรรมในสวนสนุกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต Futuroscope
แคว้นนี้มี 4 จังหวัด ดังนี้ ชารองต์, ชารองต์-มารีตีม, เดอซ์-แซฟวร์ และ เวียนน์
|
ภาคกลาง
|
มณฑล/แคว้น | เมืองหลวง | ข้อมูลโดยทั่วไป |
Limousin (ลีมูแซง)
| Limoges(ลีมอฌ) |
เป็นแคว้นที่มีวิวทิวทัศน์ตามธรรมชาติตลอดทั้งพื้นที่ ทางทิศตะวันตกของแคว้นเป็นที่ราบสูงกว้างใหญ่ ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขา การเกษตรคืออาชีพหลักของคนในแคว้น เช่น การเลี้ยง วัว แพะ แกะ
นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่อง ทางด้านเครื่องกระเบื้อง แคว้นนี้มี 3 จังหวัด ดังนี้ กอร์แรซ, เกริซ และโอต-เวียนน์
|
Auvergne (โอแวร์ญ) | Clermont-Ferrand (แกลร์มง-แฟร็อง) |
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญ เป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติและเป็นสถานที่เหมาะสมยิ่งสำหรับกีฬากลางแจ้งหลายประเภท และมีของดีประจำแคว้นนั่นคือ เนยแข็งคุณภาพของพื้นเมืองแท้ ๆ
นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติแหล่งภูเขาไฟในโอแวร์ญเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป อุทยานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วซึ่งเรียงรายกันถึง 80 ลูกและกินระยะทางถึง 35 กิโลเมตร
แคว้นนี้มี 4 จังหวัด ดังนี้ อัลลีเยร์, กองตาล, โอต-ลัวร์ และ ปุย-เดอ-โดม
|
ILe-de-France (อีล เดอ ฟร็องส์) | Paris (ปารีส) |
ตั้งอยู่บริเวณกลางประเทศเยื้องไปทางทิศเหนือ อิล-เดอ-ฟรองซ์เป็นชื่อแคว้นที่ตั้งของนครปารีสซึ่งเป็นนครแห่งแสงสี สวรรค์ของคู่รัก ศูนย์กลางการออกแบบและแฟชั่นของโลก มหานครทันสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อีกทั้งยังเป็นแคว้นที่มีสถานที่อยู่อาศัยและธรรมชาติที่สวยงานทั้งหมู่บ้าน Vallées de Chevreuse หรือป่าไม้ที่ Rambouillet(ร็องบุยเย่ต์) นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญหลาย ๆ แห่ง อาทิเช่น พระราชวังแวร์ซายด์ แคว้นนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมของวิถีชีวิตแบบฝรั่งเศสโดยแท้
แคว้นนี้มี 8 จังหวัด ดังนี้ เอสซอนน์, โอต์-เดอ-แซน, ปารีสม, แซน-แซงต์-เดอนีส์, แซน-เอต์-มาร์น, วาล-เดอ-มาร์น, วาล-ดวส และอีฟลีนส์
|
Rhone-Alpes (โรห์น-อัลป์) | Lyon (ลียง) |
แคว้นโรนาลป์ได้ชื่อมาจากแม่น้ำโรนและเทือกเขาแอลป์ แคว้นที่มีเมืองหลวงที่ลียง ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่สองของประเทศ รองลงมาจากกรุงปารีส นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรปตะวันตกอีกด้วย นั่นคือยอดเขา มงบล็อง
ดังนั้นโรห์น-อัลป์จึงเป็นดินแดนแห่งภูเขาสูงเสียดฟ้าเป็นสวรรค์ของนักไต่เขาและผู้ที่ชอบกีฬาฤดูหนาว นอกจากนี้โรห์นอัลป์ยังเป็นแหล่งเล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แคว้นนี้มี 8 จังหวัด ดังนี้ แอ็ง, อาร์แดช, โดรม, อีแซร์, ลัวร์, โรน, ซาวัว และ โอต-ซาวัว
|
ภาคตะวันออก
|
มณฑล/แคว้น | เมืองหลวง | ข้อมูลโดยทั่วไป |
Bourgogne (บูร์กอญ) | Dijon (ดีฌง) |
เป็นที่รู้จักในนาม เบอร์กันดีเป็นแคว้นที่มีอารามเก่าแก่สมัยโรมัน และหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของแคว้น นอกจากนี้ยังมีอาหารชื่อดังทั้ง ไก่อบเหล้า, หอยทากอบ และไวน์ชั้นเลิศที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อาทิ ชองแบร์แต็ง, โกลส์-วูโฌต์ โรมาเน่ ก็งตี หรือ กอร์ตง
ที่โดดเด่นมากคือ อารามเก่าแก่แห่งเมืองกลูนี เวเซอเลย์ โอตัวและตูร์นูส์
แคว้นนี้มี 4 จังหวัด ดังนี้ ยอนน์, โกต-ดอร์, นีแอฟวร์ และ ซาโอน-เอ-ลัวร์
|
Franche-Comté (ฟร็องช์-กงเต) | Besacon (เบอซ็องซง) |
แคว้นนี้ตั้งอยู่ระหว่างแคว้น Bourgogne และประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีผลผลิตที่สำคัญอาทิเช่น ข้าวสาลี, ขนมปัง, เครื่องเทศ และนาฬิกาชั้นนำมักจะถูกผลิตจากที่นี่เป็นสินค้าส่งออก
สินค้าที่มีชื่อเสียงคือ เนยแข็งจากก็งเต้ หมูแฮมตำรับดั้งเดิม ไวน์จากจูราหลายชนิด
นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ Chapelle de Ronchamp ซึ่งออกแบบโดย Le Corbusier สถาปนิกผู้รังสรรค์งานล้ำยุค
แคว้นนี้มี 3 จังหวัด ดังนี้ ดูบส์, โอต-โซน, ฌูรา และแตร์รีตัวร์ เดอ เบลฟอร์ต
|
Alsace (อาลซัส) | Strasbourg (สทราซบูร์) |
เป็นแคว้นติดกับประเทศเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ แคว้นอัลซาสมีชื่อเสียงทางด้านอาหาร โดยเฉพาะ ชูครุต (Choucroüte) กะหล่ำปลีดองที่รับประทานกับไส้กรอกและหมูแฮมนานาชนิด ขนมปังเนยสดอบกับลูกเกดและอัลมอนด์ และที่ขาดไม่ได้คือไวน์ขาวของชาวอัลซาสที่ขึ้นชื่ออย่างมาก
นอกจากนี้เมืองสทราซบูร์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นอาลซักเป็นที่ตั้งของรัฐสภายุโรป ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่สวยงามมีเสน่ห์ รวมทั้งยังมีวิหารประจำเมืองที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูงามโดดเด่น
แคว้นนี้มี 2 จังหวัด ดังนี้ บาส์-แรง และ โอต์-แรง
|
Lorraine (ลอแรน) | Metz (แม็ส) |
เป็นแคว้นที่มีเขตแดนติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์กและเยอรมัน ซึ่งในอดีตเป็นแคว้นที่ถูกรุกรานจากกองทัพมากมาย จนในปัจจุบันถูกตั้งให้เป็นเมืองของศูนย์กลางเพื่อสันติภาพโลก นอกจากนี้ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า อาทิเช่นจตุรัสสตานีสลาซ (Place Stanislas) วิหารประจำเมืองเม็ตซ์ (Metz)ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก และตั้งอยู่ในเมืองน็องซี (Nancy)
ลอแรน แหล่งรวมช่างศิลป์ เพราะมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในการผลิตแก้วคริสตัล เครื่องกระเบื้อง และไวโอลิน
แคว้นนี้มี 3 จังหวัด ดังนี้ เมิร์ต-เอต์-โมเซลล์, เมิซ, โมเซลล์ และโวช์ส
|
Champagne-Ardenne (ช็องปาญาร์แดน) | Châlons-en-Champagne (ชาลงอองชองปาญ) |
แคว้นนี้เป็นถิ่นกำเนิดและแหล่งผลิตของแชมเปญระดับโลกสัญลักษณ์ของงานฉลองและความสำเร็จ
นอกจากแชมเปญแล้วยังมีอาหารที่ขึ้นชื่อหลากหลายชนิดเช่น หมูแฮมอาร์เดน ไส้กรอกบูแด็งขาว เห็ดทรัฟเฟิล และเนยแข็ง
นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของราชประเพณีราชาภิเษกกษัตริย์ฝรั่งเศสที่สืบต่อกันมาอีกยาวนาน มีวิหารสำคัญประจำเมือง มีธรรมชาติที่เหมาะกับการพักผ่อนออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาทางน้ำ
แคว้นนี้มี 3 จังหวัด ดังนี้ โอบ, อาร์แดนน์และ โอต-มาร์น
|
ภาคใต้
|
มณฑล/แคว้น | เมืองหลวง | ข้อมูลโดยทั่วไป |
Aquitaine (อากีแตน) | Bordeaux (บอร์โด) |
แคว้นนี้ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและเทือกเขาพิเรนีส ติดกับพรมแดนประเทศสเปนมีสินค้าที่มีชื่อเสียง คือ ไวน์แดง และแฮม (จากเมืองบายอน)
มีหาดทรายสีทองกว้างใหญ่และชายทะเลดึงดูดนักโต้คลื่นจากทั่วโลก แคว้นนี้มีอาหารขึ้นชื่อหลากหลายเมนู เช่น หอยนางรมสดแกล้มไวน์ขาวรสเข้ม ไข่เจียวกับเห็ดทรัฟเฟิลหอมอร่อย
ที่สำคัญคือเป็นแหล่งปลูกองุ่นที่มีคุณภาพจึงเป็นแคว้นที่ผลิตไวน์คุณภาพรสเลิศที่สุดของฝรั่งเศส
แคว้นนี้มี 4 จังหวัด ดังนี้ ดอร์ดอญ ,ชีรงด์ ลองด์ ,โลต์-เอ-การอนน์ และ ปีเรเนส์-อาต์ลองตีก
|
Midi-Pyrénées (มีดี-ปีเรเน) | Toulouse(ตูลูซ) |
ตั้งอยู่ ณ ใจกลางของภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส มีเมืองตูลูสเป็นเมืองหลวง และแคว้นนี้ยังเป็นแหล่งผลิตเหล้าอาร์มาญยัค สถานที่จัดงานเทศกาล Jazz in Marciac ที่มีชื่อเสียง
เป็นแคว้นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศและได้ชื่อว่าเป็นที่ที่ผู้คนอยู่ดีที่สุด เนื่องจากพื้นที่ที่กว้างขวางของแคว้นได้รวมไว้แต่ของดี ๆ อากาศที่สดใส ผู้คนที่สนุกสนาน จึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อน และหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง
แคว้นนี้มี 8 จังหวัด ดังนี้ อาแรช, อาวีรง, แชร์ส, โอต-การอนน์, โอตส์-ปีเรเนส์, โลต์, ตาร์น และ ตาร์น-เอต์-การอนน์
|
Lanquedoc-Roussillon (ล็องก์ด็อก-รูซียง) | Montpellier (มงแปลีเย) |
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายแดนติดกับอิตาลี เป็นแดนสวรรค์ของนกฟลามิงโกสีชมพู ในเขตนี้มีแสงแดดสดใสเกือบตลอดทั้งปี
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของแคว้นนี้ ได้แก่ ม็งต์เปลิเย่ นีมส์ การ์กาสซอน อูแซสหรือสะพาน Pont du Gard (องค์ยูเนสโกยกให้เป็นมรดกโลก) Site ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และเมือง Agen เป็นเมืองตากอากาศ
แคว้นนี้มี 5 จังหวัด ดังนี้ โอด, การ์ด, เอโรลต์, โลแซร์ และ ปีเรเนส์-โอเรียงตาลส์
|
Provence-Cote d’Azur (โปรวองซ์-อัลป์-โกต ดาซูร์) | Marseille (มาร์แซย์) |
มีสภาพภูมิประเทศที่งดงามหลากหลายทั้งน้ำทะเล ที่ราบลุ่มเขียวขจีที่กามาร์ค (Camarque) ไร่องุ่นที่โวกลูซ (Vaucluse) ดินแดนที่ราบสูงของโอตต์-โปร์วองซ์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ศิลปินและนักประพันธ์หลายคน อาทิเช่น แวนโก๊ะ หรือ ปีกัสโซ, Marcel Pagnol, Auguste Renoirและ Francis Scott Fitzgerald เลือกที่จะมาหาแรงบันดาลใจและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ถือเป็นดินแดนศิลปินที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ
แคว้นนี้มี 6 จังหวัด ดังนี้ อัลป์-เดอ-โอต-โปรวองซ์, อัลป์-มารีตีมส์, บูชส์-ดู-โรน, โอตส์-อัลป์, วาร์ และ โวกลูส
|
Corse (กอร์ส) | Ajaccio (อาฌักซีโย) |
กอร์ซหรือคอร์ซิกาได้รับสมญาว่า เกาะแห่งความงามด้วยธรรมชาติหลากสีสัน เป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ สภาพภูมิประเทศของที่นี่มีทุกรูปแบบจากภูเขาจนถึงทะเล คุณสามารถชมความงามของทั้งภูเขาและทะเล บ้านเรือนพื้นเมืองงามแปลกตาที่ Morianincu โบสถ์และภาพเฟรสโก้ที่ Bozu วิถีชีวิตแบบคนเลี้ยงสัตว์ที่ Vanachese และ Noilu และด้วยความสวยงามของบ้านเรือนและธรรมชาติ แคว้นแห่งนี้จึงเป็นอีกสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวและพักผ่อน
แคว้นนี้มี จังหวัดเดียวคือ กอร์ส-ดู-ซูด
|
La Haute-Normandie (โอตนอร์มองดี) | Rouen (รูออง) |
เป็นแคว้นที่มีทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ซึ่งเหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ สัตว์ที่เลี้ยงก็จะเป็นพวกม้าและวัว ซึ่งม้าและวัวของที่นี่ถือว่าเป็นม้าและวัวที่ดีที่สุดของประเทศฝรั่งเศส
เป็นแหล่งผลิตเนยแข็งที่มีชื่อเสียง เช่น กามองแบร์ ปงเลเวต และเป็นแหล่งปลูกแอปเปิ้ลที่มีคุณภาพรสชาติอร่อยของฝรั่งเศส จึงมีน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือ น้ำแอปเปิ้ล
แคว้นนี้ยังเป็นเมืองอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมไฟฟ้า อุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อนั่นคือ Le Mont-Saint-Michel ซึ่งเป็นโบสถ์โบราณเก่าแก่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมันสร้างอยู่บนโขดหินใกล้ทะเล
แคว้นนี้มี 2 จังหวัด ดังนี้ เออร์, แซน-มารีตีม
|
การปกครอง
การเมืองการปกครอง ระบบการปกครอง- ประชาธิปไตยในรูปแบบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข
สาธารณรัฐฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐเดี่ยวกึ่งประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2501 โดยผ่านการลงประชามติ สาระสำคัญในรัฐธรรมนูญนั้นคือการเพิ่มอำนาจประธานาธิบดี อำนาจฝ่ายบริหารนั้นถูกแบ่งออกและมีหัวหน้า 2 คน ซึ่งก็คือประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ ผ่านการเลือกตั้งโดยตรงแบบสากล มีวาระ 5 ปี (เดิม 7 ปี) มีตำแหน่งประมุขแห่งรัฐอีกด้วย และนายกรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรัฐบาล ซึ่งถูกแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี
รัฐสภาฝรั่งเศสนั้นแบ่งออกเป็น 2 สภาได้แก่ สภาผู้แทนราษฎร (Assemblée Nationale) และ วุฒิสภา (Sénat) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนในเขตเลือกตั้ง มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีวาระ 5 ปี สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีและเสียงข้างมากในสภาสามารถกำหนดการตัดสินใจของรัฐบาลอีกด้วย สมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกของคณะผู้เลือกตั้ง มีวาระ 6 ปี (เดิม 9 ปี)
เงินตราฝรั่งเศส : สกุลยูโร (€)
เหรียญ 1€ =100 Cents
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น