วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2560

วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera) ในประเทศญี่ปุ่น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วัดคิโยมิสึ น้ําสามสาย
วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu – dera) หรือเรียกว่า “วัดน้ำใส” ตั้งอยู่บนเนินเขา ฮิงายามา สาเหตุที่เรียกว่า “วัดน้ำใส” ก็เนื่องมาจากมีน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแม่น้ำ 3 สาย ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไหลมาจากเทือกเขา สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 788 (สมัยนาระ ประมาณปี พ.ศ. 1321) เพื่อถวายแด่ พระโพธิสัตว์กวนอิม 11 พักต์ หรือสร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น วัดคิโยมิสึ จึงถือว่าเป็นมรดกโลกอันเก่าแก่กว่า 1,500 ปี
ทางเข้าวัดจะเป็นเจดีย์ 3 ชั้น หลังใหญ่ตั้งตะหง่านอยู่ ชื่อว่าเจดีย์ซันจุโนโตะ เข้าไปภายในมีศาลาประดิษฐานพระโพธิสัตว์ แต่ที่ขึ้นชื่อของวัดนี้คือ ระเบียงของศาลาหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนไหล่เขา ด้วยเสาไม้ต้นมหึมา หลายอัน เมื่อขึ้นไปยืนที่ระเบียง สามารถมองเห็นตัวเมืองได้ชัดเจน
วัดคิโยมิสึยังมีสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง คือ วิหารที่มีระเบียงไม้ยื่นออกมานอกตัวอาคาร ซึ่งมีเสาค้ำยันถึง 139 ต้น อีกทั้งยังเป็นการก่อสร้างอาคารโดยการใช้สลักยึดอาคาร แทนการใช้ตะปูยึดอีกด้วย จุดเด่นอยู่ที่การสร้างวิหารริมเชิงเขา ซึ่งใช้ไม้ซุงขนาดใหญ่ ประมาณ 130 ต้นซ้อนกันขึ้นไปเป็นฐาน ข้างใต้อาคาร คือ น้ำตกโอตะวะ ซึ่งเป็นสายน้ำ 3 สาย ไหลลงสู่บ่อน้ำ ผู้มาเยี่ยมชมวัดมักจะมาดื่มน้ำจากน้ำตกนี้ด้วยกระบวยโลหะ กระบวยที่ใช้ตักน้ำทางวัดจะมีวิธีการฆ่าเชื้อที่รวดเร็วหลังจากการรองน้ำดื่มแล้ว ก็ให้นำกระบวยเข้าช่องฆ่าเชื้อด้วยแสงอุลตราไวโลเลต การดื่มน้ำจากน้ำตกนี้มีความเชื่อว่าสามารถบำบัด รักษโรคภัยไข้เจ็บได้ และยังเชื่อกันว่า น้ำสายที่ 1 ถ้าใครดื่มจะประสบความสำเร็จด้านการศึกษา น้ำสายที่ 2 จะสมหวังในความรัก น้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรง
ภายในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าอื่น ๆ จำนวนมาก ที่เป็นที่รู้จักดี คือ ศาลเจ้าจิซู (Jishu – jinja) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพ โอคุนิ นุชิโนะ มิโคโตะ (Okuninushino Mikoto) เทพแห่งความรักและเนื้อคู่ภายในศาลเจ้ามี “ก้อนหินแห่งความรัก” 2 ก้อน ตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร เชื่อกันว่า หากสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินหนึ่ง ไปยังอีกก้อนหินหนึ่ง จะสมปรารถนาด้านความรัก
วลีที่กล่าวว่า “กระโดดจากระเบียงวัดคิโยมิสึ” มีความหมายพ้องกับ คำกล่าวภาษาอังกฤษที่ว่า “To Take the plunge”  ซึ่งหมายความว่าตัดสินใจกระทันหัน หรือกล้าตัดสินใจ วลีนี้ที่มาจากความเชื่อในสมัยเอโดะ ที่ว่า หากผู้ใดสามารถกระโดด จากระเบียงวัดแล้วยังมีชีวิตรอดได้ ความปรารถนาของผู้นั้นจะสัมฤทธ์ผล คำอธิบายที่น่าเป็นไปได้ ในการรอดชีวิตจากการกระโดดระเบียง คือ ด้านล่างของระเบียงมีต้นไม้หนาแน่น ซึ่งอาจชะลอแรง จากการตกได้บ้าง แต่ในปัจจุบันทางวัดห้ามไม่ให้มีการกระโดระเบียง แต่ในสมัยเอโดะ มีบันทึกไว้ว่า มีผู้มากระโดดถึง 234 คน รอดชีวิตได้คิดเป็นร้อยละ 85.4 ของทั้งหมด
วัดคิโยมิสึ ได้รับการดูแลทำนุบำรุงอย่างดี จากรัฐและชาวเกียวโต ทำให้สภาพวัดและโบราณสถานทางพุทธศาสนา ยังคงความเก่าแก่และสมบูรณ์แบบมาก ทำให้องค์การยูเนสโก ยกย่องให้เป้นมรดกโลกแห่งหนึ่งและถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกียวโต
Cr. http://www.planetworldwide.com